RML กางแผนปี 63 ปฏิวัติโครงสร้างธุรกิจ ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ปรับกลยุทธ์ทำการตลาดเชิงรุก Strategic Marketing พร้อมนำเสนออสังหาเพื่อการลงทุนคอนโดปล่อยเช่าเป็นเซอร์วิส อพาร์ตเม้นท์กับคอนโดระดับลักซ์ชัวรี่ทำเลใจกลางเมือง ปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มรายได้จากธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่ม ลุยเปิดโครงการใหม่คอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ย่านสุขุมวิท 38
นายไลโอเนล ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML ผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ท่ามกลางภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัว และตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2563 มีปัจจัยที่ส่งผลกระทบในทางลบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในระยะสั้นถึงระยะกลาง ในขณะที่เราให้ความสำคัญในการดูแลพนักงาน นักลงทุน และลูกค้า ไม่มุ่งเน้นเรื่องของการกระจายการลงทุน แต่จะปรับกลยุทธ์ในการรับมือจากผลกระทบของ COVID-19
อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยบวกอัตราดอกเบี้ยต่ำและเป็นขาลง มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ของรัฐบาล การผ่อนปรนเกณฑ์ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งอาจเป็นปีที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มีความพร้อมและเน้นการลงทุนในระยะกลาง-ยาว เพราะเป็นโอกาสดีที่จะได้ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกลง มีโอกาสรับผลตอบแทนที่คุ้มค่า ทั้งในแง่ของการเพิ่มขึ้นของส่วนต่างราคาที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ตลอดจนรายได้จากค่าเช่าบนทำเลที่มีศักยภาพการเติบโต
สอดคล้องกับการปรับกลยุทธ์ของบริษัทในปีนี้ ที่มุ่งเน้นทำการตลาดเชิงรุก (Strategic Marketing) สร้างโอกาสการเติบโตในธุรกิจหลัก ตอบรับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยบริษัทออกโปรดักส์ สำหรับการลงทุนในคอนโดเพื่อปล่อยเช่า ในโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ บนทำเลใจกลางเมือง อาทิ เดอะ ลอฟท์ อโศก (The Lofts Asoke), เดอะ ดิโพลแมท 39 (The Diplomat 39) และ เดอะ ดิโพลแมท สาทร (The Diplomat Sathorn ภายใต้การบริหารงานจาก Klapsons The River Residences Bangkok และบริษัท อสังหา เรียลตี้ บริษัทย่อยของ RML ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
ขณะเดียวกัน บริษัทวางแผนส่งเสริมการขายผ่านช่องทาง Online ด้วยกลยุทธ์ O2O (Online to Offline) เพื่อให้ลูกค้าสามารถรับชมโครงการระดับลักซ์ชัวรี่ผ่านระบบ Online ก่อนตัดสินใจเข้าชมโครงการจริง เพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อและเข้าถึงลูกค้าโดยตรง และในช่วงสถานการณ์นี้ยังเป็นช่องทางที่สามารถสร้างความปลอดภัยด้านสุขภาพให้กับลูกค้าอีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลักดันยอดขายโครงการได้เพิ่มมากขึ้น
สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทวางแผนการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ใหม่ 1 โครงการ บนถนนสุขุมวิท ซอย 38 ซึ่งจะเป็นโครงการร่วมทุนโครงการที่สามกับพันธมิตร โตเกียว ทาเทโมโนะ (Tokyo Tatemono) ซึ่งเป็นธุรกิจยักษ์ใหญ่และก่อตั้งมาอย่างยาวนานในประเทศญี่ปุ่น
ด้านธุรกิจ Recurring Income ประกอบด้วย ธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจโรงแรม ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 บริษัทจึงเลื่อนเปิดตัวโรงแรม HOTEL KITCH จากเดิมในเดือนเม.ย.2563 เป็นช่วงครึ่งปีหลังแทน โดยโรงแรม HOTEL KITCH เป็นคอนเซ็ปต์ใหม่และบริหารโรงแรมด้วยตนเอง จำนวน 72 ห้อง และมีแผนจะเปิดตัวโรงแรมใหม่อีก 1 แห่ง ตั้งอยู่ในย่านสุขุมวิท จำนวน 300 ห้อง เน้นคอนเซ็ปต์ที่ทันสมัยโดยการใช้เทคโนโลยีมานำเสนอ
ส่วนธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ( Food & Beverage ) เพื่อจัดการความเสี่ยงของธุรกิจ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการวางแผนในการวางกลยุทธ์ใหม่ของร้านอาหารบ้านหญิง และกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจ F&B ซึ่งหากมีรายละเอียดแผนงานที่แน่ชัดจะแจ้งให้ทราบในลำดับต่อไป
ขณะที่ตัวเลขยอดขายรอโอน (Backlog) ของบริษัททั้งหมด ณ สิ้นปี 2562 มีมูลค่ารวม 8,010.5 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป ขณะที่ในปีนี้ยอดโอนส่วนใหญ่มาจากโครงการ The Lofts Silom ที่คาดว่าลูกค้าจะทยอยโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ต้นปี ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 80% บริษัทจะยังลงทุนในการทำกลยุทธ์ทางการตลาดในการสร้างแบรนด์ ไรมอน แลนด์ ในฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ
นายไลโอเนล กล่าวเพิ่มเติม “บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ที่แข็งแกร่งของโครงการ และเราพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าในเวลาและโอกาสที่ถูกต้องและเหมาะสม ในการบริหารจัดการธุรกิจและปรับกลยุทธ์เพื่อผ่านวิกฤตครั้งนี้ และบริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ นักลงทุน และลูกค้าของเรา ให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปพร้อม ๆ กัน”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
RML announces plans to diversify and build resilience in its
business portfolio to weather Covid-19 impacts
Raimon Land Public Company Limited (“the Company”), Thailand’s leading developer of luxury real estate, announced plans to diversify and strengthen its business to ride through the Covid-19 impacts. This includes a new business product line to offer investment and rental opportunities for its suite of service apartments and luxury condominiums, as well as targeted strategies to boost revenue from its Food & Beverage business. The Company has also planned to move forward with a new luxury condominium project on Sukhumvit 38.
Mr Lionel Lee, Chief Executive Officer of Raimon Land, said: “The outbreak of Covid-19 has dampened the domestic and global economic outlook for 2020 – which will adversely impact the real estate market in the short to medium-term. While our priority is to ensure the well-being of our staff, investors, and customers during this difficult period, we will not lose focus on what needs to be done in terms of diversification and building resilience to withstand the impact of Covid-19, and emerge stronger from this crisis.”
Protecting our core residential business
To protect our core residential property business and capture opportunities amidst the crisis, the Company is launching a new business product line that involves rental property investments, that will be managed by Klapsons The River Residences Bangkok. The rental property investments – including The Lofts Asoke, The Diplomat 39, and The Diplomat Sathorn, provide a good opportunity for medium to long-term investors to invest in properties that provide rental income and at the same time, are expected to appreciate in value when the market recovers. Additionally, record low interest rates, Government’s policies to boost the property market and Bank of Thailand’s decision to ease the LTV will allow investors to invest at cheaper rates. The Company expects good response from investors.
To further stimulate demand and boost sales volumes, the Company is also introducing an online channel through O2O (Online to Offline) commerce, which enables customers to view the luxury residential units online anytime and anywhere, before visiting the projects of their choice. The O2O channel will give our customers added health safety as they engage us from online through to offline during this sensitive period.
The Company will continue to move forward on a planned development of an ultra-luxury condominium on Sukhumvit 38. This will be the third joint venture project with our long-term partner, Tokyo Tatemono, one of the oldest and most established Japanese real estate companies.
Adjusting our recurring income portfolio
In view of the tremendous Covid-19 impact across the global travel and hospitality industries, the Company will postpone the opening of Hotel KITCH, originally scheduled in April 2020, to the second half of the year. However, the Company remains confident of its pipeline of hospitality developments over the medium to long-term. The Hotel KITCH is an in-house managed 72-room hotel that will accommodate the lifestyle of gastro-tourists. Plans are also in place to open another 300-room hotel in Sukhumvit, with a modern, technology concept.
To manage the risk of its Food and Beverage (F&B) business, the Company is currently holding a strategic review of the Baan Ying restaurant franchise. Additionally, the Company is currently studying the possibility of a F&B joint venture with potential partners. More details will be released when the plans are finalised.
Building resilience through this crisis
The Company’s backlog as of end 2019 stood at THB 8,010.5 million and the Company expects revenue to be gradually realised from 2020 onwards. One of our major projects, the Loft Silom, is over 80% sold and has been undergoing ownership transfer since the start of the year. The Company will also continue its investments in strategic marketing and build Raimon Land’s brand across our domestic and international customer base.
Mr Lionel Lee added: “We have a strong backlog of projects and we stand ready to move forward on the right opportunities, while actively managing our business portfolio and building resilience through this crisis. As a Company, we are keeping our spirits up and coming together with our partners, investors, and customers to pull through this period of uncertainty.”
