กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ของทีม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เตรียมเป็นผู้รักษาประตู คนแรกของประเทศไทยที่ได้ไปเล่ นในเวทีระดับโลก ที่ย้ายไปเล่นในลีกเบลเยี่ยม หลังจาก สโมสร โอเอช ลูเวินในลีกดิวิชั่น 2 เบลเยี่ยม เตรียมดึงตัวไปร่วมทีมในช่วงเดื อนมกราคมนี้ คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ มบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่สร้างปรากฏการณ์พาทีม"จิ้ งจอกสยาม" เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้อย่างยิ่งใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ได้ยื่นข้อเสนอสั่นสะเทื อนวงการฟุตบอลไทย ถึงสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่ในไทยลีก ในการนำตัว กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูหมายเลขหนึ่งที มชาติไทย มาร่วมทีมอย่างเป็นทางการเรี ยบร้อยแล้ว พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่ าจอมหนึบทีมชาติไทยรายนี้มีศั กยภาพที่พร้อมลงเล่นในลีกชั้ นนำของยุโรปได้อย่างแน่นอน
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ มบริษัท คิง เพาเวอร์ และเจ้าของสโมสร โอเอช ลูเวิน เผยถึงการเซ็นสัญญาครั้งประวัติ ศาสตร์ว่า "เราได้ติดตามดูฟอร์มของ กวินทร์ มาเป็นเวลานาน และมีความเชื่อมั่นว่าผู้รั กษาประตูรายนี้มี ความสามารถและมีคุณสมบัติพร้ อมที่จะเล่นให้กับทีมได้อย่ างแน่นอน โดยได้ติดต่อไปยังสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ถึงความเป็นไปได้ในการนำเขามาร่ วมทีมในเลคสอง ก่อนที่ตลาดซื้อขายจะสิ้นสุ ดลงในปลายเดือนมกราคมนี้ ซึ่งก็ต้องขอบคุณทางสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่รับข้อเสนอที่สำคัญต่อตัว กวินทร์ และวงการฟุตบอลไทยในครั้งนี้" ซึ่งกวินทร์ ธรรมสัจจานันท์นั้นถือเป็ นนายทวารที่เติบโตมาจากสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด อย่างแท้จริง เจ้าตัวเข้ามาอยู่รั้ว "กิเลนผยอง" ในปี 2008 ก่อนจะกลายเป็นมือหนึ่งได้อย่ างรวดเร็ว โดยสามารถพาทีมคว้าแชมป์ ไทยลีก ได้ถึง 4 สมัย รวมทั้ง ลีก คัพ อีก 2 ครั้ง ในขณะที่ผลงานของเขากับทีมชาติ ไทย นั้น มือกาววัย 28 ปี ลงเฝ้าให้ทีมชุดแชมป์ ซีเกมส์ (2013) และแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ (2014, 2016) พร้อมทั้งถูกสื่อหลายสำนักยกย่ องให้เป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่ สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้ยุคปัจจุบัน
ทั้งนี้สำหรับการเซ็นสัญญากับ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ถือเป็นหนึ่งในโครงการ คิง เพาเวอร์ ไทยเพาเวอร์ พลังคนไทยที่ส่งเสริมและพั ฒนาพลังของคนไทยในทุกมิติ ที่มุ่งเน้นส่งเสริมเยาวชนไทยด้ านกีฬาฟุตบอล สร้างโร้ดแม็ปพัฒนาการด้านฟุ ตบอลให้กับเยาวชนไทยทั่วทุกภูมิ ภาคของประเทศไทย ซึ่งมีความมุ่งมั่นที่จะพั ฒนาและส่งเสริ มเยาวชนไทยโดยเฉพาะด้านกีฬาฟุ ตบอล ให้มีโอกาสพัฒนาทักษะการ เล่นกับนักฟุตบอลระดับโลก และพัฒนาสานฝันให้นักฟุ ตบอลไทยได้ก้าวไปเป็นนักฟุ ตบอลอาชีพระดับโลก และนั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้ คิง เพาเวอร์ เข้าไปซื้อสโมสรโอเอช ลูเวิน ทีมในพร็อกซิมุส ลีก การแข่งขันระดับที่สองในเบลเยี ยม เพราะเป็นประเทศเดียวที่เปิ ดโอกาสให้นักกีฬาต่างชาติเข้ าไปเล่นในยุโรปได้ และจะช่วยยกระดับมาตรฐานความรู้ และประสบการณ์ดีๆ ให้กับเยาวชนไทยต่อไป
ในส่วนของประวัติสโมสรฟุตบอล โอเอช ลูเวิน (OH Leuven) สโมสรฟุตบอลแห่งนี้ก่อตั้งขึ้ นเมื่อปี 2002 จากการรวมตัวกันของ 3 สโมสรในนครลูเวิน ได้แก่ FC ZwarteDuivelsOud-Heverelee, Daring Club Leuven และ Stade Leuven โดยสโมรสรตั้งอยู่ที่สนาม เดน คริฟ ในเมืองลูเวิน ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกห่ างจากมืองหลวงของเบลเยียม (Brussels) ประมาณ 25 กม. เมืองลูเวิน มีประชากรประมาณ 100,000 คน และเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่ ใหญ่ที่สุดของเบลเยี่ยม โอเอช ลูเวิน เล่นอยู่ใน ดิวิชั่น 2 ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกที่ปรับเปลี่ ยนรูปแบบทำให้มีผลต่อการเปลี่ ยนแปลงเรื่องการเลื่อนชั้ นและตกชั้น โดยฤดูกาลใหม่กำลังจะเริ่มขึ้ นในเดือนสิงหาคมนี้ ใน 5 ฤดูกาลที่ผ่านมา OH Leuven สามารถพาทีมเข้าไปเล่นในลีกสู งสุด (Jupiler Pro League) ได้ถึง 4 ฤดูกาล ซึ่งความสำเร็จนี้เกิดขึ้ นภายในระยะเวลาเพียง 9 ปี นับตั้งแต่สโมสรเริ่มก่อตั้ งในปี 2002 เพื่อเล่นในลีกดิวิชั่น 3 ของเบลเยียม
ต่อมาในกลางปี 2017 กลุ่มคิง เพาเวอร์ ภายใต้การนำของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา (เจ้าของและประธานสโมสรฟุ ตบอลเลสเตอร์ ซิตี้) ได้เข้าซื้อกิจการสโมสรเอาด์- เฮเฟอร์เลลูเวิน และถือหุ้นสโมสร จำนวน 92 % โดยได้รับการแต่งตั้งให้ ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริ หารของสโมสรโอเอช ลูเวิน ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2017 พร้อมเปลี่ยนชื่อสโมสรให้ คนไทยได้อ่านง่ายขึ้นเป็น “โอเอช ลูเวิน” และเปลี่ยนชื่อสนามเป็น คิง เพาเวอร์ แอท เดน ดรีฟ ที่สามารถรองรับผู้ชมได้ 10,000 ที่นั่ง โดยมุ่งมั่นเดินหน้าสานฝันให้ คนไทยได้มีโอกาสก้าวสู่การเป็ นนักฟุตบอลอาชีพและผลักดันให้มี โอกาสเข้าไปเล่น ฟุตบอลในลีกยุโรปในอนาคต และสามารถติดตามการแข่งขันของที มนี้ได้ทางช่องทรูสปอร์ต เฮชดี2 ช่อง 667
