ธนาคารกรุงเทพ ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เอ็มอาร์อาร์ 0.25% และเอ็มโออาร์ 0.125% เพื่อช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการลดต้นทุนทางการเงิน เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ช่วยกระตุ้นให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยภาพรวม โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อเอ็มอาร์อาร์ (MRR) หรืออัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate) ลง 0.25% และอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อเอ็มโออาร์ (MOR) หรืออัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate) ลง 0.125% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ นับเป็นการตอบสนองทิศทางดอกเบี้ยนโยบายและให้ความช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการในเรื่องการลดต้นทุนด้านอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ
“ธนาคารกรุงเทพ มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจและความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยภาพรวมในช่วงที่มีความเปราะบางทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ” นายสุวรรณ กล่าว
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Bangkok Bank cuts MRR and MOR to help businesses lower costs and increase competitiveness
Bangkok Bank announced cuts of 0.25% in its MRR (Minimum Retail Rate) and 0.125% in its MOR (Minimum Overdraft Rate) of loan interest rates, effective 7 February 2020, to help businesses lower their financial costs, increase their competitiveness, and support the Thai economy.
Bangkok Bank Director and Senior Executive Vice President Suvarn Thansathit said the bank’s reduction of 0.25% in its MRR (Minimum Retail Rate) and 0.125% in its MOR (Minimum Overdraft Rate) would be effective 7 February 2020.
The rate reductions aim to help business operators, especially SMEs, to lower their interest rate costs which contribute to business operation costs.
“Bangkok Bank is committed to assist business operators to improve their business efficiency and competitiveness, which will help drive the economy in line with government policies”, Mr. Suvarn concluded.
