สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

รัฐบาลผนึกพลังเอกชนจัดงานระดับโลก “Thailand Street Food Festival 2020”

รัฐบาลผนึกกำลังภาคเอกชนพร้อมเชฟระดับโลก  จัดโครงการ “Thailand Street Food Festival 2020”  เล็งเป้ายกระดับสตรีทฟู้ดไทย กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ประเดิมจัดงานแรกกุมภาพันธ์ 2020 นี้ ปิดถนนสีลมทำ Pad Thai World Record by World Gas โชว์ศักยภาพสู่ชาวโลก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) เป็นประธานในพิธีเปิดตัวโครงการ “Thailand Street Food Festival 2020” โดยโครงการดังกล่าวนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมศักยภาพให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่มีมูลค่ากว่าปีละ 3 ล้านล้านบาท ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของทั้งภาครัฐและเอกชนทุกภาคส่วนทั้งระดับประเทศและระดับท้องถิ่นได้ร่วมผลักดันเพื่อขับเคลื่อนภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศให้ยั่งยืนสู่อนาคต

 “ ที่ผ่านมา สตรีทฟู้ดของไทยเราโด่งดังไปทั่วโลก โดยได้รับการจัดอันดับจากสถาบันระดับโลกมากมาย อาทิ สำนักข่าว CNN จัดอันดับให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีอาหารริมทาง หรือ สตรีทฟู้ด ดีที่สุดในโลก เพราะมีรสชาติอร่อย หลากหลาย และมีชื่อเสียง นักท่องเที่ยวสามารถเสาะหาอาหารได้ตลอดทั้งวันทุกพื้นที่ ในราคาย่อมเยา”

โดยยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า ในปี 2560 ที่ผ่านมาภาพรวมตลาดอาหารริมทางในประเทศไทย หรือสตรีทฟู้ดส์ มีมูลค่า 276,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2559 ถึง 4.3% และยังเติบโตต่อเนื่องอีก 4 ปีติดต่อกัน โดยคาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 340,000 ล้านบาท ในปี 2564 คิดเป็นอัตราขยายตัวเฉลี่ย 5.3% ต่อปีจากการประเมินในปี 2559 มีผู้ประกอบการอิสระที่ดำเนินธุรกิจร้านอาหารริมทางประมาณ 103,000 ร้าน คิดเป็น 69% ของร้านอาหารทั้งหมด และเป็นมูลค่าราว 228,000 ล้านบาท โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 5.4% ต่อปี

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า  การท่องเที่ยว เชิงอาหาร (Street food) ในประเทศไทย นับว่าเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวของประเทศ เนื่องจากอาหารไทยได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซึ่งประเทศที่มีนักท่องเที่ยวนิยมท่องเที่ยวเชิงอาหาร หรือ สตรีทฟู้ด (Street food) ในประเทศไทย 5 อันดับแรก ประกอบด้วย จีน รัสเซีย สหราชอาณาจักร มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา จึงเห็นได้ว่าการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร จะเป็นส่วนช่วยผลักดันเศรษฐกิจของประเทศได้ ทั้งนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงได้มีการจัดรณรงค์เรื่องการท่องเที่ยว เชิงอาหาร โดยทางกระทรวงได้มีการจัดการด้านนโยบายเพื่อรองรับแผนงานดังกล่าว เพื่อส่งเสริมศักยภาพของประเทศไทยในฐาะ Street Food อันดับ 1 ของโลก ให้เป็นที่ประจักษ์สู่สายตาชาวโลก อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ตามโยบายรัฐบาล โดยในปี 2563 นี้ จะจัดให้มี โครงการ “Thailand Street Food Festival 2020” โดยเริ่มกิจกรรมแรกในช่วงวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์  ณ บริเวณถนนสีลม คาดว่าจะมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานกว่า 100,000 คน

“โอกาสนี้ รัฐบาล ได้จัดให้มีโครงการ “Thailand Street Food Festival 2020” เพื่อเป็นเวทีโปรโมทการท่องเที่ยวด้านอาหารของประเทศไทย Gastronomy Tourism เนื่องจาก Street Food เป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก โดยประมาณการว่าจะมีเงินหมุนเวียนประมาณกว่า 500 ล้านบาท ตลอด 2 วันของการจัดงาน"

ด้าน นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาล ได้มีนโยบายส่งเสริมกิจกรรม "วอล์คกิ้ง สตรีท" ( walking street )ในพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่สำคัญทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ครั้งนี้หน่วยงานของทั้งภาครัฐและเอกชนจะได้มาร่วมกันผลักดันโครงการ การท่องเที่ยว เชิงอาหาร (Street food) ในประเทศไทยผ่านโครงการ “Thailand Street Food Festival 2020” เชื่อมั่นว่าจะเป็นการช่วยยกระดับและส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในระดับสากล

 “ โครงการนี้ เบื้องต้น จะมีทั้งสิ้น 6 ครั้ง โดยครั้งแรก จะจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 1 - 2 กุมภาพันธ์ 2020 ณ บริเวณถนนสีลม ครั้งที่ 2 จะจัดขึ้น ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม  ณ จ.พระนครศรีอยุธยา ครั้งที่ 3 คือวันที่ 3 – 6 เมษายน ณ พัทยา จ.ชลบุรี ครั้งที่ 4 ในวันที่ 25 - 26 เมษายน  ณ จ.เชียงใหม่, ครั้งที่ 5 จะจัดขึ้นในวันที่ 1 - 3 พฤษภาคม ณ จ.ขอนแก่น ครั้งที่ 6 จะจัดระหว่างวันที่ 30 – 31 พฤษภาคม ณ จ.ภูเก็ต โดยสถานที่ทั้ง 6 แห่งดังกล่าวนี้ถือเป็นพื้นที่เป้าหมายสำคัญด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ เนื่องจากเป็น พื้นที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยวภาคค่ำ (Night Tourism) และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดนั้นจะเป็นการเสริมศักยภาพให้ภาพรวมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวโดยรวม ให้ได้รับการบูรณาการ และมีศักยภาพยิ่งขึ้น “

ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การท่องเที่ยวนั้นถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยสร้างรายได้ ที่มีมูลค่าเป็นอันดับหนึ่งของการค้าบริการรวมของประเทศ โดยคิดเป็น ร้อยละ 10 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross domestic product: GDP) การท่องเที่ยว ก่อให้เกิดการลงทุน การจ้างงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องประมาณ 2 ล้านคน โดย องค์การการค้าโลก    ( WTO ) เผยว่าประเทศไทยสามารถทำรายได้จากการท่องเที่ยวได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 1.65 ล้านล้านบาท คว้าอันดับ 3 ของประเทศที่ทำรายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุดในโลกประจำปี 2559 – 2560  และล่าสุดต้นปี 2019 ที่ผ่านมา รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มสู่ 3 ล้านล้านบาท ขณะที่มาสเตอร์การ์ด ได้เผยผลสำรวจเมืองสุดยอดจุดหมายปลายทางด้านอาหารและการชอปปิ้ง กรุงเทพฯ ติดอันดับ 3 เมืองที่มีการใช้จ่ายด้านอาหารมากที่สุด และติดอันดับที่ 6 ของเมืองที่มีการใช้จ่ายด้านการชอปปิ้งมากที่สุด เช่นกัน “ททท.เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งทางที่จะสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยมากขึ้น และเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว ส่งผลให้ตลาดท่องเที่ยวเชิงอาหารในประเทศ ซึ่งรัฐบาลและภาคเอกชนกลุ่มต่างๆ อาทิ ธนาคารออมสิน กลุ่มบุญรอด และเวิลด์แก๊ส ฯลฯสามารถร่วมกันสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพ ทั่วถึง สมดุล ยั่งยืนได้ร่วมกัน”

ในส่วนธนาคารออมสิน นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า “ธนาคารฯได้มีการเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาและยกระดับให้กับผู้ค้าอาหารริมทางและได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่นโครงการ Street Food เปลี่ยนชีวิต by GSB ซึ่งเป็นการสนับสนุนนโยบายอาหารริมทางของภาครัฐบาล ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงในอาชีพขายอาหารให้มีความยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมและเพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยในการเข้าสู่ Thailand 4.0 โดยที่ให้มีการชำระเงินค่าอาหารและบริการทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือได้ในงาน”

นอกจากนี้  คุณชมกมล พุ่มพันธ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายก๊าซหุงต้ม แบรนด์เวิลด์แก๊ส  กล่าวว่า “โดยทางบริษัทจะเข้าร่วมกิจกรรม โดยจะเนรมิตรสวรรค์ของนักชิมทั้งชาวไทยและต่างชาติ ด้วยการนำเสนอ “ผัดไทเวิลด์เร็คคอร์ดโดยเวิลด์แก๊ส”  ด้วยการเชิญกินเนสเวิลด์เร็คคอร์ด มาร่วมบันทึกสถิติของกระทะ ผัดไทที่ยาวที่สุดในโลก และปริมาณผัดไท 1 กระทะที่มากที่สุดในโลก โดยกระทะมีความกว้าง 99 เซนติเมตร มีความยาว 110 เมตร แก๊ส 110 ท่อ พร้อมคนผัด 110 คน มีน้ำหนักผัดไทย 2200 กิโลกรัม และสามารถเสิร์ฟให้คนทานได้มากกว่า 22,000 ชุด โดยจะมีท่านนายกฯเป็นประธานในงานดังกล่าวนี้ พร้อมด้วยเชฟชื่อดังของประเทศไทย”

ทางด้านเชฟชุมพล  แจ้งไพร เชฟมิชินลินสตาร์สองดาวคนไทยคนแรกของโลกในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน “ Thailand Street Food Festival 2020   ” กล่าวว่า โครงการดังกล่าวนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการช่วยส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาต่อยอดธุรกิจสตรีทฟู้ดของประเทศไทยให้มีความเป็นมืออาชีพโดยร่วมมือกับสถาบันคุณวุติวิชาชีพ เพื่อผู้ประกอบการสตรีทฟู้ด ให้มีความรู้เพียบพร้อมสำหรับการบริหารจัดการ Street food ให้มีความสะอาด รักษาสิ่งแวดล้อมฯลฯ  โดยในปีนี้จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรก และยิ่งใหญ่ระดับโลก พร้อมคัดสรร STREET FOOD ระดับ 5 ดาว จำนวนกว่า 100 ร้านค้า มาร่วมในงานนี้  พร้อมทั้ง 400 ร้านดังจากการคัดเลือกทั่วประเทศ และ 60 Food Truck ระดับแนวหน้า และอีกไฮไลต์คือ การลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น ลุ้นรับคูปองอิเล็คทรอนิกส์ (e-coupon)สำหรับทานฟรี ทุกๆวัน ของการจัดงาน  โดยแต่ละวัน ประชาชน และ นักท่องเที่ยวมีสิทธิ์ทานฟรี. มูลค่า 200 บาท  ต่อคน/จำนวน 2,000 สิทธิ์ต่อวัน นอกจากนี้จะมีการโหวตคะแนนจากประชาชน เพื่อหาสุดยอด  Street food โดยการโหวตผ่านแอพพลิเคชั่น  และสุดท้าย การจัด Festival ครั้งนี้ จะมีศิลปินนักร้องและดาราชื่อดังมากมาย ซึ่งพร้อมจะมาเพิ่มความสนุกสนานให้กับงานนี้อย่างล้นหลาม จึงขอเรียนเชิญพี่น้องคนไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อย่าพลาด ร่วมงานนี้ ครับ”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Political News