สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

ม.วลัยลักษณ์เตรียมจัดค่ายวัฒนธรรมนานาชาติ 2561 ชูแนวคิดวัฒนธรรมไร้พรมแดน

มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์แถลงข่าวเตรียมจัดค่ายวัฒนธรรมนานาชาติ ครั้งที่ 2 เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมไร้พรมแดน” มีนักศึกษาจาก 50 ประเทศทั่วโลกสมัครเข้าร่วมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม

         ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดี ม.วลัยลักษณ์ พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ ดร.ทพ.สิทธิชัย ขุนทองแก้ว รักษาการแทนคณบดีวิทยาลัยทันตแพทยศาสตร์นานาชาติ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงศธร เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้กำกับดูแลฝ่ายภายในศูนย์กิจการนานาชาติ ในฐานะผู้อำนวยการโครงการค่ายวัฒนธรรมนานาชาติ นายเทิดชัย  วิรุฬห์พานิช  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธ.กรุงไทย จำกัด(มหาชน) และนายสมชาย อาภรณ์พงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและพัฒนาหนี้นอกระบบ ธ.ออมสิน  ร่วมกันแถลงข่าวการจัดค่ายวัฒนธรรมนานาชาติ ครั้งที่ 2 เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมไร้พรมแดน”  โดยมีสื่อมวลชนจากสถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุกระจายเสียง หนังสือพิมพ์  รวมถึงสื่อออนไลน์ต่างๆ รวมทั้งสิ้นกว่า 30 คนเข้าร่วม เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา ณ ห้องเดอะเซลล์ลาร์ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพมหานคร

       ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์มีเป้าหมายในการก้าวสู่ความเป็นนานาชาติ โดยเริ่มจากปฏิรูปการเรียนการสอนโดยนำมาตรฐาน UKPSF (UNITED KINGDOM PROFESSIONAL STANDARDS FRAMEWORK) มาใช้ ให้ความสำคัญกับการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษของนักศึกษา มีการจัดตั้ง “สถาบันภาษา” เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะสากลให้แก่นักศึกษา สนับสนุนให้นักศึกษาไปปฏิบัติงานสหกิจศึกษาในต่างประเทศ รวมทั้งการส่งเสริมวัฒนธรรมสู่สากล โดยในปี 2560 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยได้ริเริ่มจัดค่ายวัฒนธรรมนานาชาติเป็นครั้งแรก ได้รับความสนใจจากนักศึกษานานาชาติจาก 21 ประเทศ จำนวน 110 เข้าร่วมคน และมีเป้าหมายที่จะจัดกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2561 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 -23 มิถุนายน 2561 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมไร้พรมแดน” เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาต่างชาติได้มารู้จักวัฒนธรรมไทย อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญของชาติ และกลายเป็นทูตวัฒนธรรมที่จะช่วยในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยไปสู่สากลต่อไป ในขณะเดียวกันนักศึกษาไทยที่เข้าร่วมโครงการก็จะมีโอกาสสร้างเครือข่ายกับนักศึกษาต่างชาติจากนานาประเทศทั่วโลกและเพิ่มพูนประสบการณ์การใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตจริง ที่สำคัญโครงการค่ายฯ ยังตอบสนองกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่มุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์ทางด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเมืองรองให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก ซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราชถือเป็น 1 ใน 55 จังหวัดเมืองรองของประเทศไทย

             ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงศธร เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา  กล่าวเสริมว่า ในปีนี้มีนักศึกษาให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ  กว่า 750 คน จาก 300 มหาวิทยาลัย จาก 50 ประเทศ และ 5 ทวีปทั่วโลก และมีการคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดจำนวน 160 คน เข้าร่วมค่ายเป็นระยะเวลา 8 วัน  โดยระหว่างวันที่ 16 – 20 มิถุนายน 2561 ที่อยู่ที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์จะมีการแสดงวัฒนธรรมประจำชาติจากนักศึกษาทุกชาติจำนวน 25 ชุด นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการจะมีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมไทยผ่านกิจกรรมต่างๆ คือ ทำอาหารไทย ต่อยมวยไทย รำไทย และ ดนตรีไทย ตลอดจนกิจกรรมร่วมกับชุมชนทำความสะอาด      ชายหาดที่ขนอม พร้อมการศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์เมืองนครศรีธรรมราช เยี่ยมชมวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ล่องเรือเยี่ยมชมลุ่มน้ำปากพนัง รวมถึงการเดินทางโดยรถไฟไปยังกรุงเทพมหานครเมืองหลวงของประเทศไทย โดยระหว่างวันที่ 21 – 23 มิถุนายน 2561 ที่กรุงเทพมหานคร นักศึกษาจะมีโอกาสเยี่ยมชมวัดพระศรีรัตนศาสดารามและพระบรมมหาราชวัง รวมถึงการเข้าคาราวะฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และในพิธีปิดค่ายฯ นักศึกษาจะร่วมกันแสดงชุด “CULTURES WITHOUT BORDERS” ซึ่งจะเป็นการผสมผสานเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของแต่ละชาติเข้าด้วยกัน

“วัตถุประสงค์สำคัญประการหนึ่ง ของการจัดโครงการค่ายฯ คือ การพัฒนาเยาวชนให้เป็นพลเมืองโลก ผู้ยอมรับในความแตกต่างทางวัฒนธรรม สีผิว และ ความเชื่อ ของพลเมืองแต่ละประเทศ และเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาสังคมโลกให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง”ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงศธร เดชาติวงศ์ กล่าว

Political News