สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

‘หนุ่มเช็ก-สาวเชียงใหม่’แชมป์วิ่ง‘๙ ตามรอย ดอยคำ’ปลื้มประสบความสำเร็จเกินคาด-เล็งต่อยอดจัดทุกปี

 “มิโลสลาฟ แยนซิค” นักวิ่งหนุ่มจากเช็ก และ “อรวรรณ สินเสร้า” สาวเชียงใหม่ ประเดิมคว้าแชมป์วิ่งการกุศล “๙ ตามรอย ดอยคำ” ครั้งที่ 1 ด้าน พิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด สุดปลื้ม หลังประสบความสำเร็จเกินคาดในการจัดครั้งแรก เล็งต่อยอดจัดต่อเนื่องทุกปี พร้อมหมุนเวียนไปตาม “โรงงานหลวงดอยคำ” ทั้งที่ “สกลนคร-บุรีรัมย์-เชียงราย”

กิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศล “๙ ตามรอย ดอยคำ” ซึ่งนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการศึกษาให้โรงเรียน 6 แห่งใน ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 2 แห่ง ได้มีการแข่งขันขึ้น ณ บริเวณโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ ๑ (ฝาง) จ.เชียงใหม่ และชุมชน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยมี นายพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด และนายชัชวาลย์ ปัญญา นายอำเภอฝาง ร่วมปล่อยตัวนักวิ่งที่เข้าร่วมการแข่งขันกว่า 1,200 คน

ในส่วนผลการแข่งขัน ไฮไลต์อยู่ที่ประเภทระยะฮาล์ฟ มาราธอน 21 กม. รุ่นทั่วไปชาย ออกสตาร์ทจากโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ ๑ (ฝาง) จ.เชียงใหม่ จากนั้นวิ่งผ่านชุนชนก่อนวิ่งกลับมาเข้าเส้นชัย ซึ่งผลปรากฏว่า มิโลสลาฟ แยนซิค นักวิ่งหนุ่มวัย 31 ปีจากสาธารณรัฐเช็ก เข้าเส้นชัยคนแรกด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 25 นาที 48 วินาที ประเดิมคว้าแชมป์ฝ่ายชายไปครอง

ภายหลังการแข่งขัน มิโลสลาฟ แยนซิค ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกดีที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้ และเป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางมาเมืองไทยในช่วงทริป 3 สัปดาห์ ซึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อนได้ไปวิ่งรายการที่กรุงเทพฯ มาแล้ว แต่รายการวิ่งดอยคำนี้ส่วนตัวชื่นชอบมากเพราะมีวิวที่สวยงามมาก นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้เยี่ยมชมโรงงานหลวงแห่งนี้ด้วย ซึ่งถือว่ามีความสวยงามเช่นกัน และมีความน่าสนใจมาก

ขณะที่ประเภทระยะฮาล์ฟ มาราธอน 21 กม. รุ่นทั่วไปหญิง “แพร” อรวรรณ สินเสร้า นักวิ่งสาววัย 21 ปีจาก จ.เชียงใหม่ สังกัดชมรมวิ่งซีบี รันเนอร์ ทำผลงานควบฝีเท้า วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 43 นาที 47 วินาที ประเดิมคว้าแชมป์ฝ่ายหญิงไปครองได้สำเร็จในการจัดการแข่งขันรายการนี้เป็นครั้งแรก

“แพร” อรวรรณ สินเสร้า กล่าวว่า มาเข้าร่วมวิ่งรายการนี้ เพราะอยากทำเพื่อพ่อหลวง รัชกาลที่ 9 และตัวเองก็อยู่ในโครงการหลวงของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ด้วย ทำให้อยากมาเข้าร่วมอย่างมาก ซึ่งตนได้ฝึกซ้อม โดยมีอาจารย์ณรงค์ เทียมเมฆ และนายพศิส ฟ้าสาง เป็นโค้ชให้ และช่วงเวลา 2 ปีกว่าที่ผ่านมา เคยคว้าถ้วยรายการวิ่งมาแล้วกว่า 100 ถ้วย ที่สำคัญยังเคยครองถ้วยพระราชทานมาแล้วหลายรายการด้วย

“เส้นทางการวิ่งสวยค่ะ และชอบมาก อากาศเย็นสบาย ไม่เหมือนรายการวิ่งในกรุงเทพฯ และมีทั้งชนเผ่าชาวเขา มีธรรมชาติที่สวยงาม มีของกินระหว่างทาง มีกองเชียร์เยอะ และมีหลายอย่างให้ได้เห็น แต่การวิ่งขึ้นเนินเขาก็ถือว่าโหดพอสมควร แต่ปีหน้าก็สัญญาว่าจะมาเข้าร่วมการแข่งขันอีกทุกปีค่ะ” อรวรรณ กล่าว

นายพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ประสบความสำเร็จเกินคาดมาก เพราะคนที่มาเข้าร่วมวิ่งต้องเดินทางมาไกล หลายคนมาจากกรุงเทพฯ ต้องนั่งเครื่องบินมาต่อรถเข้ามาในพื้นที่เพื่อวิ่งเช้าตรู่ คิดว่าทุกคนมาด้วยใจ

“หนึ่งในปรัชญาของดอยคำคือร่วมแรงร่วมใจกัน ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้าน, คนของดอยคำ หรือแม้กระทั่งภาครัฐเองก็เข้ามาช่วยจัดงาน จริงๆ แล้วการจัดวิ่งครั้งนี้ไม่ได้เน้นผลการแข่งขัน แต่จัดวิ่งให้ได้เห็นศาสตร์ของพระราชาว่า ล้นเกล้า รัชกาลที่ 9 ทรงทำความเจริญให้พื้นที่นี้อย่างไร และโรงงานหลวงฯ ที่ ๑ (ฝาง) นี้ สืบสาน รักษา ต่อยอดงานต่ออย่างไร ทำให้คนได้รับรู้ได้มากขึ้น ซึ่งดอยคำจะก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆ กับชุมชนตามแนวทางพระองค์ท่าน” นายพิพัฒพงศ์ กล่าว

ด้าน นายสรภัส สุตเธียรกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงสำหรับการจัดเป็นครั้งแรก ซึ่งเราตั้งใจจะจัดให้เป็นงานเล็กๆ แบบอบอุ่น ทุกคนที่มาวิ่งต้องมีความสุข แต่กระแสตอบรับดีมาก ประกอบกับได้รับการตื่นตัวจากชุมชนรอบโรงงานหลวง ทำให้งานยิ่งขยายตัวออกไปจนมียอดสมัครพุ่งถึง 1,200 คน เมื่อรวมกับจิตอาสา, ชาวบ้าน รวมทุกภาคส่วนที่เข้ามาช่วยก็ถือเป็นการรวมพลังกัน

“อย่างไรก็ตาม คงต้องปรับปรุงกันไปเรื่อยๆ ซึ่งเราตั้งใจว่าจะจัดเป็นประจำทุกปี โดยอยากจะจัดหมุนเวียนไปที่โรงงานหลวงของดอยคำแต่ละแห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่ อ.เต่างอย จ.สกลนคร, อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ และ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ก่อนจะวนมาที่เดิมที่ อ.ฝาง แห่งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับชื่องาน ‘๙ ตามรอยดอยคำ’ ซึ่งผู้เข้าร่วมจะได้ไปดูว่าบ้านของดอยคำแต่ละแห่งเป็นอย่างไร” นายสรภัส กล่าว

Political News